ข้าวตังหน้าตั้ง

วิธีทำข้าวตังหน้าตั้ง

ส่วนประกอบข้าวตัง :

1. ข้าวเหนียว 1 ถ้วย
2. ข้าวสวย 1 ถ้วย
3. น้ำ 3 ถ้วย
4. น้ำมัน 3 ถ้วย
วิธีทำ :

1. หุงข้าวตามปรกติ
2. หุงแล้ว ถ้าบ้านใครมีกระด้งก็ใช้ ถ้าไม่มีก็ไม่เป็นไรจ้า นำฝาถ้วยวางไว้
แล้วนำถุงพาสติกวางทับบนฝาถ้วยทำแบบนี้จะง่ายดีไม่ติดแถมมีแม่พิมพ์หา
ง่าย ๆของใกล้ตัวใครมีอย่างอื่นก็ใช้ได้แล้วแต่ คลุกข้าวสวยให้ทั่ว ๆ แล้วตัก
สัก 1 ทัพพี หรือแล้วแต่ใครต้องการเล็ก หรือ ใหญ่ แค่ไหนนำมาวางไว้ บน
ฝา แล้วกดให้เป็นแบนๆ พอเสร็จแล้วนำไปตากแดด 1 วัน หรือ 2 วัน แล้ว
แต่รอให้แห้งๆ มีเวลาก็กลับด้านก็ได้จะได้ตากแค่วันเดียว ตามรูปนะจ๊ะ
3. นำน้ำมันตั้งไฟให้ร้อน ๆ แล้วนำข้าวไปทอดให้พองๆ กรอบแล้วยกขึ้น
ข้อสำคัญ ไม่ต้องใหญ่มากก็ได้ เพราะพอทอดแล้วมันจะพอง อืดใหญ่เลยหล่ะ

ส่วนประกอบ :

1. หมูสับ 100 กรัม
2. ถั่วบด 2 ช้อนโต๊ะ
3. กุ้งแห้งตำ 1 ช้อนโต๊ะ
4. น้ำมะขามเปียก 1 ช้อนโต๊ะ
5. หอมแดงซอย1 ช้อนโต๊ะ
6. กระเทียมตำ 1 ช้อนโต๊ะ
7. พริกไทยตำ 10 เม็ด
8. น้ำตาลปีบ 1 ช้อนโต๊ะ
9. น้ำปลา หรือ ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนชา
10. กะทิ 1 ถ้วย
11. พริกซอย แต่งหน้า 1 ช้อนชา
12. ผักชี เอาแต่ใบ 1 ช้อนโต๊ะแต่งหน้า
13. น้ำมัน 1 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ :

1. นำมันตั้งไฟ ใส่ กระเทียม และหัวหอมลงไปผัดให้หอมแล้วใส่หมูสับผัดๆ
2. ใส่กุ้งแห้ง ถั่ว น้ำมะขามเปียก น้ำตาลปีบ กะทิ ผัดให้เข้ากันชิมตามรส

การทำห่อหมก

เครื่องปรุงเนื้อปลากะพง 300 กรัม
น้ำพริกแกงเผ็ด 2 ช้อนโต๊ะ
กะทิกระป๋อง 1 กระป๋อง
ไข่ไก่ 1 ฟอง
ซีอิ้วขาว (หรือน้ำปลา) 1 ช้อนชา
น้ำตาลทราย 2 ช้อนชา
ผักกาดขาว 5 ใบ
แป้งข้าวเจ้า 1 ช้อนโต๊ะ
ผักชี 1 ต้น
พริกสด 2 เม็ด
ใบมะกรูด 3-4 ใบ
วิธีทำ1. นำเนื้อปลามาแล่เป็นชิ้นบางๆ ซับน้ำให้แห้ง พักไว้


2. นำกะทิประมาณ 1 ถ้วยมาใส่ในชามผสม (แบ่งหัวกะทิไว้ในถ้วยเล็ก ¼ ถ้วย) ใส่น้ำพริกแกงเผ็ดลงไป คนจนน้ำพริกละลายเข้ากันดี


3. ใส่ปลาลงไป คนทางเดียวไปเรื่อยๆ ให้ส่วนผสมเข้ากัน คนไปเรื่อยๆ จนส่วนผสมข้น ค่อยๆ เติมกะทิที่เหลือลงไปจนหมด


4. ตอกไข่ใส่ลงไป ปรุงรสด้วยซีอิ้วขาว (หรือน้ำปลา) และน้ำตาลทราย แล้วคนให้เข้ากัน


5. เปิดเตาที่ไฟปานกลางค่อนข้างแรง ใส่น้ำเปล่าลงไปในหม้อ ระหว่างนั้น นำผักกาดขาวมาซอยหยาบๆ พอนำเดือดก็ใส่ลงไปในหม้อ รอจนน้ำเดือดอีกครั้งก็เทน้ำออก


6. บีบน้ำผักกาดขาวออกให้หมดแล้วนำไปรองก้นถ้วย ตักส่วนผสมใส่ลงไปจนเกือบเติมถ้วย จัดเรียงลงในที่นึ่งแล้วนึ่งไปประมาณ 30 นาที


7. นำหัวกะทิที่แบ่งไว้มาใส่แป้งข้าวเจ้าลงไป คนให้เข้ากันแล้วนำไปเข้าไมโครเวฟประมาณ 1 นาทีกะทิจะข้นขึ้นแล้วนำมาคนอีกครั้งหนึ่ง


8. นำผักชี พริกสด และใบมะกรูดมาล้างน้ำให้สะอาด สะเด็ดน้ำแล้วเด็ดผักชีเป็นใบๆ ซอยพริกเป็นเส้นๆ ส่วนใบมะกรูดฉีกก้านกลางใบออกแล้วหั่นเป็นฝอยๆ


9. เมื่อนึ่งครบ 30 นาที ราดหน้าแต่ละถ้วยด้วยหัวกะทิที่เตรียมไว้ โรยด้วยผักชี ใบมะกรูดหั่นฝอย และพริกซอย นึ่งต่อไปอีกประมาณ 2 นาที ก็ปิดเตาและยกลงได้


10. จัดห่อหมกใส่จาน จากนั้นก็ยกเสิร์ฟได้เลย

สูตรค็อกเทลมาตรฐาน

เครื่องดื่มค็อกเทลสูตรมาตรฐาน

ลูกศิษย์ที่เข้าคอร์สอบรมสมูธตี้และเหล้าปั่น ปรับทุกข์เข้ามาว่า ลูกค้าสมัยนี้บางคนไม่ต้องการที่จะดื่มเครื่องดื่มชนิดปั่น แต่อยากได้เครื่องดื่มที่เป็นแก้วแบบค็อกเทล แต่ไม่มีความรู้ที่จะทำให้ลูกค้าได้

ที่จริงแล้วสูตรต่างๆ ที่ผู้เขียนมอบให้กับผู้เข้าอบรมไปนั้นก็คือ สูตรค็อกเทลกึ่งสแตนดาร์ด (standard) เพียงแต่เราทำตามสูตรทุกอย่าง แล้วนำไปใส่กระบอกเชคเกอร์แล้วเขย่า บางสูตรต้องรินเฉพาะน้ำ บางสูตรต้องเทพร้อมน้ำแข็ง เพียงแค่นี้ผู้เข้าอบรมทุกท่านก็สามารถขายค็อกเทลกึ่งมาตรฐานได้ครับ

ความจริงแล้ว ผู้เขียนอยากเปิดหลักสูตรใหม่เลยคือ ค็อกเทลกึ่งมาตรฐาน ทำไมต้องเปิดกึ่งมาตรฐานครับ เพราะถ้าเปิดเป็นแบบชนิดค็อกเทลสูตรสแตนดาร์ดแล้ว ผู้เข้าอบรมต้องเรียนอย่างต่ำ 1/2 เดือน หรือ 1 เดือน จึงจบหลักสูตรเป็นบาร์เทนเดอร์ แต่ตามความจริงแล้ว สูตรค็อกเทลต่างๆ ที่นิยมดื่มกันในบ้านเรามีไม่กี่สูตรหรอกครับ ซึ่งไม่น่าเกิน 20 สูตรด้วยซ้ำ

สูตรเครื่องดื่มของต่างประเทศ บางสูตรจะต้องใช้เหล้าราคาแพงและหายาก จึงไม่เหมาะกับบ้านเมืองเรา แต่ผู้อ่านไม่ต้องกังวล ผู้เขียนจะมอบสูตรมาตรฐานสากลให้ ถ้าสูตรไหนบอกว่าไม่ต้องใส่ก็ได้ ผู้อ่านก็ไม่ต้องใส่ แต่ถ้าสูตรไหนบอกว่า เปลี่ยนเป็นวัตถุดิบชนิดอื่นได้ ผู้อ่านก็เปลี่ยนไปตามนั้น



การผสมเครื่องดื่มค็อกเทล

วิสกี้ ซาว (whisky sour)

ส่วนผสม

เบอร์เบิ้ลวิสกี้ 1 จิ๊กเกอร์

(เป็นวิสกี้ของอเมริกา)

น้ำมะนาวหวาน 2 จิ๊กเกอร์

แองกอส ทูร่า บิทเทอร์ 2-3 หยด

ไข่ขาว 1 เหยาะ

เบอร์เบิ้ลวิสกี้ ก็คือวิสกี้ธรรมดานี่เองครับ เราจะใช้เป็นแบล็คเลเบิ้ลก็ได้ มะนาวหวานก็คือน้ำเชื่อมผสมมะนาวสด แองกอส ทูร่า บิทเทอร์ ก็คือกลิ่นผสมเครื่องดื่ม กลิ่นคล้ายกฤษณากลั่น 2-3 หยด ไม่ต้องใส่ก็ได้

ไข่ขาว 1 เหยาะ เราสามารถใส่ลงไปผสมในน้ำมะนาวหวานได้เลย ใส่เพื่อทำให้เวลาที่เขย่าเครื่องดื่มในเชคเกอร์แล้วจะเกิดเป็นฟองน่าดื่มยิ่งขึ้น

เห็นสูตรแล้วเป็นไงครับ วิธีทำก็คือ นำน้ำแข็งก้อน (ยูนิต) ลงในกระบอกเชคเกอร์ 1/2 เชคเกอร์ ตวงส่วนผสมทั้งหมดลงไป เชคให้เย็น (15-20 รอบ) แล้วกรองเอาแต่น้ำลงในแก้วซาว แก้วซาวก็คือ แก้วมีก้านจับ ขนาดบรรจุ 5 1/2 ออนซ์ เอาอย่างนี้ดีกว่า ผู้เขียนจะมอบสูตรต่างๆ ไว้ให้ศึกษากัน 2-3 สูตร ดีกว่า

พิ้งค์ เลดี้ (Pink lady)

ส่วนผสม

ดราย ยีน 1 จิ๊กเกอร์

คอนโทร่ 10 หยด (ไม่ใส่ก็ได้)

หรือ ทริเปิ้ล เสค คูราโซ่

น้ำมะนาวหวาน 1 จิ๊กเกอร์

ครีม (นมสด) 1/2 จิ๊กเกอร์

น้ำทับทิม 1/4 จิ๊กเกอร์

ไข่ขาว 1 เหยาะ

ใช้แก้วค็อกเทล ตกแต่งด้วยมะนาวฝานเสียบลูกเชอร์รี่

บาคาร์ดี้ ค็อกเทล (Bacardi cocktail)

ส่วนผสม

ไลท์ รัม 1 จิ๊กเกอร์

น้ำมะนาวหวาน 2 จิ๊กเกอร์

น้ำทับทิม 1/4 จิ๊กเกอร์

ใช้แก้วค็อกเทล ตกแต่งด้วยมะนาวฝานเสียบลูกเชอร์รี่

ไดคิวรี่ (Daiquiri)

ส่วนผสม

ไลท์ รัม 1 จิ๊กเกอร์

คอนโทร่ 10 หยด (ไม่มีไม่ต้องใส่)

หรือ ทริเปิ้ล เสค คูราโซ่

น้ำมะนาวหวาน 2 จิ๊กเกอร์

ใช้แก้วค็อกเทล ตกแต่งด้วยมะนาวฝานเสียบลูกเชอร์รี่

ส่วนสูตรต้องผสมน้ำแข็งแล้วเททั้งหมดลงในแก้วมีดังนี้

สิงคโปร์ สลิง (Singapore sling)

ส่วนผสม

ดราย ยีน 1 จิ๊กเกอร์

เชอร์รี่ เฮียริ่ง 1/2 จิ๊กเกอร์

(สูตรดัดแปลงใช้เป็นน้ำหวานเชอร์รี่)

น้ำมะนาวหวาน 1 1/2 จิ๊กเกอร์

น้ำทับทิม 3/4 จิ๊กเกอร์

ท็อปโซดาให้เต็มแก้ว ใช้แก้วลองดริ๊งก์ ตกแต่งด้วยมะนาวฝานเสียบลูกเชอร์รี่ เสิร์ฟด้วยหลอดและไม้คนยาว

ยีน ฟิซ (Gin fizz)

ส่วนผสม

ดราย ยีน 1 จิ๊กเกอร์

น้ำมะนาวหวาน 1 1/2 จิ๊กเกอร์

ไข่ขาว 1 เหยาะ

ท็อปโซดาให้เต็มแก้ว ใช้แก้วลองดริ๊งก์ ตกแต่งด้วยมะนาวฝานเสียบลูกเชอร์รี่ เสิร์ฟด้วยหลอดและไม้คนยาว

ไม ไท (Mai tai)

ส่วนผสม

ไลท์ รัม 3/4 จิ๊กเกอร์

แบล็ค รัม 3/4 จิ๊กเกอร์

ออร์เร้นจ์ คูราโซ่ 1/2 จิ๊กเกอร์

(ใช้น้ำหวานแทนเจอรีน แทนได้)

น้ำส้ม 1 จิ๊กเกอร์

น้ำสับปะรด 1 จิ๊กเกอร์

น้ำมะนาวหวาน 1 จิ๊กเกอร์

น้ำทับทิม 3/4 จิ๊กเกอร์

ใช้แก้วลองดริ๊งก์ ตกแต่งด้วยส้มฝานเสียบลูกเชอร์รี่ เสิร์ฟด้วยหลอดและไม้คนยาว

เห็นไหมครับ ง่ายๆ เพียงแต่ผู้อ่านต้องตั้งใจและเตรียมวัสดุให้พร้อม ซึ่งผู้เขียนเชื่อแน่เหลือเกินว่า ผู้อ่านท่านใดที่ประกอบกิจการเหล้าปั่นอยู่แล้ว จะต้องมีเหล้าชนิดต่างๆ ประจำร้านอยู่แล้ว เพราะฉะนั้น ผู้อ่านสามารถผลิตได้เลยครับ

สำหรับผู้อ่านท่านใดต้องการประกอบธุรกิจในด้านเหล้าปั่นหรือค็อกเทล ท่านสามารถมาลงทะเบียนเรียนได้เลย หรือต้องการจะเรียนวิชาค็อกเทลสูตรมาตรฐานแบบชนิดโรงแรมใหญ่เขาขายกัน แต่เราจะเรียนกันแบบชนิดวันเดียวจบ และเก่งแบบมืออาชีพเลย ผู้อ่านต้องอดใจรออีกนิดนะครับ เพราะขณะนี้อยู่ในช่วงเขียนหลักสูตรให้เหมาะสมกับเวลาที่เราจะเรียนกันในวันเดียว

เพราะใน 1 วัน เราจะต้องเรียนรู้เรื่องแก้ว เรื่องเหล้า เรื่องน้ำหวานผสม เรื่องน้ำมะนาวหวาน ซึ่งเป็นหัวใจของเครื่องดื่มค็อกเทล ซึ่งวิธีการผลิตน้ำเชื่อมผสมค็อกเทลนั้น ต้องมีเคล็ดลับนิดหน่อย ถ้าผู้อ่านทำน้ำเชื่อมสูตรพิเศษนี้เป็นแล้ว รับรอง เครื่องดื่มของท่านที่ผลิตออกมาจะเกิดประกายฟองสวยงามอย่างไม่ยากเย็นเลยครับ

ผู้อ่านอาจสงสัยว่า ใน 1 วัน จะเรียนกันสำเร็จหรือ ข้อนี้ผู้เขียนขอเอาเกียรติของบาร์เทนเดอร์รับรองเลยครับว่า ผู้เขียนจะปรับปรุงสูตรให้ง่ายแก่การเรียนรู้ โดยจะทำเป็นสูตรสแตนดาร์ดและสูตรปรับปรุง ส่วนสูตรไหนที่ต้องใช้เหล้าต่างชนิด ผู้อ่านก็สามารถที่จะผสมตามสูตรได้เลย เพียงแต่ต้องจัดหาเหล้าชนิดนั้นๆ มาผสม ก็เพียงแค่นั้นเอง

เครื่องดื่มชนิดนี้ ถ้าเรารู้หลักแล้ว สามารถผสมได้ทุกสูตรแบบมืออาชีพเลยครับ ฉบับนี้พอแค่นี้ก่อน ส่วนแฟนคอลัมน์ทั้งหลายโปรดเตรียมตัวเข้าคอร์สเรียนการผสมเครื่องดื่มค็อกเทลแบบมืออาชีพได้เลยครับ

ค้นพบหนอนตัวกลมสายพันธุ์ใหม่ สิ่งมีชีวิตใต้ดินลึกสุดในโลก

ค้นพบหนอนตัวกลมสายพันธุ์ใหม่ สิ่งมีชีวิตใต้ดินลึกสุดในโลก

ดูท่าความคิดเดิมที่ว่า ไม่มีสัตว์ชนิดใดสามารถอาศัยอยู่ในใต้พื้นดินที่ลึกมากๆ ได้นั้นคงจะต้องเปลี่ยนไป หลังการสำรวจในเหมืองที่แอฟริกาใต้ ได้ค้นพบความจริงที่น่าพิศวงว่า หนอนตัวกลมสามารถดำรงชีวิตอยู่ในน้ำที่อุณหภูมิ 48 องศาเซลเซียส ตรงบริเวณรอยแตกของเปลือกโลกที่อยู่ใต้พื้นดินลึกถึง 1.3 กิโลเมตรได้ ซึ่งถือเป็นการตีแสกหน้านักวิทยาศาสตร์ ซึ่งเชื่อว่าในความลึกขนาดนั้น คงจะมีเพียงสัตว์เซลล์เดียวเท่านั้นที่สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ โดยทีมนักวิจัยกล่าวว่า นี่คือสิ่งมีชีวิตหลายเซลล์ที่อยู่ในพื้นที่ที่ลึกที่สุดเท่าที่เคยมีการสำรวจทางวิทยาศาสตร์เลยทีเดียว
จากการวิจัยได้พบหนอนถึง 2 สายพันธุ์ หนึ่งในนั้นเป็นพันธุ์ใหม่ที่นักวิทยาศาสตร์ได้ตั้งชื่อให้มันว่า mephisto Halicephalobus ตามชื่อของเฟาส์ต (Faust) พระเจ้าแห่งโลกบาดาล ส่วนอีกสายพันธุ์คือ Plectus aquatilis หนึ่งในหนอนตัวกลมที่เรารู้จักกันโดยทั่วไป
ดร.ตุลลิส ออนสต๊อต นักจุลชีววิทยาแห่งมหาวิทยาลัยปรินซ์ตัน กล่าวถึงการค้นพบครั้งนี้ว่า ครั้งแรกที่เห็นมัน เขาแทบจะหยุดหายใจ และยังกล่าวอีกว่า หนอนพวกนี้น่าจะสามารถอยู่ได้ในพื้นที่ที่มีออกซิเจนน้อยมาก แต่สาเหตุที่หนอนเหล่านี้มาอยู่ในพื้นที่แบบนี้ได้นั้นยังเป็นที่สงสัยอยู่ เพราะน้ำในบริเวณที่พบหนอนเหล่านี้ มีอายุราว 3,000-10,000 ปีเลยทีเดียว ซึ่งพวกเขาเชื่อว่า เดิมหนอนเหล่านี้น่าจะอยู่บนพื้นดิน ก่อนที่การเคลื่อนที่ของเปลือกโลกจะทำให้มาอยู่ในที่แห่งนี้
ขณะที่ ดร.เกเตน บอร์โกนี กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า ไม่แปลกใจเท่าไหร่ที่จะพบหนอนในพื้นที่ลึกขนาดนี้ เพราะเชื่อว่าหนอนเหล่านั้น มีคุณสมบัติที่จำเป็นต่อการเอาตัวรอดในสภาพแบบนี้อยู่แล้ว ซึ่งการค้นพบครั้งนี้ จะเป็นแรงบันดาลใจให้ออกค้นหาสัตว์ชนิดอื่นๆ ที่อาจซ่อนตัวอยู่ใต้พื้นพิภพแห่งนี้ต่อไป

นสพ.ข่าวสด

7 อันดับ หมาแสนดุ !! [ เมืองไทยเราติดด้วยแหละ ]

7 . อัลเซเซี่ยน 

ถือเป็นสุนัขที่ได้ชื่อว่าดุพอสมควร มีเขี้ยวเล็บแหลมคม แข็งแรงว่องไว เห่าเสียงดัง ขู่ก็น่ากลัว แต่ด้วยความฉลาด
เรียนรู้เร็ว เชื่อฟังคำสั่งทำให้ อัลเซเซี่ยนดูจะดีกว่าสุนัขพันธุ์อื่นอยู่มาก รวมทั้งข่าวคราวในเรื่องเสียหายก็ไม่
ค่อยมี ดังนั้น ในวงการบันเทิงบทของ อัลเซเซี่ยน จึงเป็นสุนัขฉลาดแสนรู้ ซื่อสัตย์ ขนาดเป็นพระเอกก็ยังมี แถม
ยังมีฉากช่วยชีวิตคนอยู่บ่อยๆ (ในชีวิตจริงก็มีบ่อยๆ เหมือนกัน) 

6 . โดเบอร์แมน

เคยได้รับความนิยมช่วงหนึ่งในไทย ก่อนการมาถึงของ พิทบูลและร็อดไวเลอร์ นิยมเลี้ยงไว้เฝ้ายาม จึงมีนิสัยดุพอสมควร ในยุโรปเป็นสุนัขพันธุ์หนึ่งที่ใช้ล่าเนื้อเพราะความปราดเปรียวของมัน ด้วยรูป ร่างสูงเพรียว ตัวโตเต็มที่เหมือนกวางตัวย่อมๆ ส่วนเรื่องความเร็วจัดได้ว่าเป็นนักวิ่งตัวหนึ่ง 

5. บางแก้ว


พันธุ์ไทยกันบ้าง บางแก้ว จัดเป็นหมาไทยที่ได้ชื่อว่าดุที่สุดพันธุ์หนึ่ง และไม่น่าเชื่อว่าก่อนหน้านี้ เคยมีข่าวคนใช้ถูกบางแก้วกัดตายเหมือนกัน ทั้งนี้ก็ด้วยพิษสงของเขี้ยวเล็บที่แข็งแรง 
4 .  ร็อดไวเลอร์ 


ร็อดไวเลอร์ จองพื้นที่หน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์บ้านเราอยู่เป็นระยะๆ ด้วยนิสัยดุ กัดแหลกของมันทำให้ล่าสุดถึงกับ
มีการสร้างหนังชื่อ ร็อดไวเลอร์ โดยมีเนื้อหาเกี่ยวกับความร้ายกาจของสุนัขพันธุ์นี้ 

3 . ฟิล่า บราซิเลียโร่ 


สุนัขล่าเนื้อจากต่างประเทศเข้ามาเลี้ยงตามบ้าน เป็นสุนัขพันธุ์ดุที่สุดในโลก โดยมีสายพันธุ์ดั้งเดิมเป็นสุนัข
พื้นเมืองของบราซิล ที่เลี้ยงในไร่ขนาดใหญ่เพื่อขับไล่เสือหรือหมี 

2 . สุนัขพันธุ์ทิเบตัน มาสทิสส์




เป็นสุนัขสายพันธุ์โบราณ มีชื่อเรียกในภาษาท้องถิ่นว่า Do-khyi ซึ่งแปลว่า สุนัขที่ต้องถูกผูกไว้ (tied dog) เนื่องจากอุปนิสัยที่หวงถิ่นฐาน และดุร้าย จึงต้องผูกไว้เพื่อความปลอดภัยของบุคคลภายนอก พวกมันเป็น 1 ในสายพันธุ์สุนัข ที่ ดุร้ายที่สุดในโลก สายพันธุ์หนึ่ง โดยชาวธิเบต กล่าวว่าพวกมัน ดุร้าย กล้าหาญ และแข็งแกร่งจนสามารถต่อสู้กับหมี หรือ เสือ ที่บุกเขามากินฝูงสัตว์ที่มันดูแลได้ทีเดียว
1 อเมริกัน พิทบูล เทอเรียร์ 

เป็นสุนัขพันธุ์ที่ดุที่สุดในโลก ถึงขนาดที่ประเทศอังกฤษแบบไม่ให้มีการเลี้ยงกัน เนื่องจากมีข่าวจนเป็นคดีความ
ฟ้องร้องกันไปหลายครั้งหลายครา สุนัขพันธุ์นี้ก็เคยมีข่าวว่ากัดคนตายมาแล้วมากมาย (แต่รักเจ้าของยิ่งชีพ)

            พิทบูลจับโจรได้เก่งจังเลย ^^  น่ากลัวด้วย  

ลายมือถูกรางวัลที่ 1

ความหมายตามลายมือ
ไม่ว่าการเสี่ยงโชคใด ๆ ที่มีรางวัลที่ ๑ ได้เงินเป็นจำนวนมาก หรือไม่ว่าจะเป็นการแข่งขันกีฬาหรือการชิงโชคใด ๆ ก็ตาม จะเป็นรางวัลใหญ่อันมหาศาลดังต่อไปนี้

หมายเลข ๑-๑
เส้นที่พุ่งมาจากเนินจันทร์ไปสู่เนินอาทิตย์ และมีจุดแดงที่เนินแสดงถึงการมีโชคจากการเสี่ยงลอตเตอรี่หรือการเสี่ยงทุกอย่างอันมหาศาล

หมายเลข ๑-๒ 
เส้นที่พุ่งมาจากเส้นชีวิตและพุ่งไปสู่เนินอาทิตย์ที่มีจุดแดงขึ้นบนเนินอาทิตย์ หมายถึงได้โชคจากงานการลงทุนการค้าอันมหาศาล

หมายเลข ๑-๓
เส้นที่พุ่งมาจากเนินอังคารไปสู่เนินอาทิตย์และมีจุดแดงบนเนินอาทิตย์ด้วย หมายถึงโชคจากการแข่งขันได้รางวัลอันมหาศาล.

Quiz About Love

1. สิ่งที่ทำให้ความรักของคุณไม่สมหวัง

- คุณเริ่มเลี้ยงปลาทอง และเริ่มตระเตรียมของที่จำเป็นในการเลี้ยง แต่รู้สึกว่ายังมีอะไรบางอย่างที่ขาดไป คุณจะเพิ่มอะไรลงในอ่างเลี้ยงปลาทอง
1 อาหารปลา
2 หญ้าน้ำ
3 ของประดับตกแต่งอ่างปลา
4 ปลาทองอีตัว
ตอบ 1 คนที่เลือกข้อนี้เป็นคนค่อนข้างขี้อ้อนและ มักจะไม่ฟังเรื่องของอีกฝ่ายตอบ 2 คนที่เลือกข้อนี้เป็นคนค่อนข้างขี้สงสัย จึงมึกจะกลัวที่ตัวเองต้องเจ็บปวดตอบ 3 คนที่เลือกข้อนี้เป็นคนที่ไม่ชอบแสดงตัวตนของตัวเองให้อีกฝ่ายเห็น ของตกแต่งคือสิ่งที่คุณพยายามสร้างเพื่อบิดเบือนภาพลักษณ์ที่แท้จริงของคุณตอบ 4 คุณไม่ถนัดในการอ้อนอีกฝ่าย การเลือกปลาทองเพิ่มอีกตัวแปลว่าคุณเป็นคนขี้เหงา แต่กลับชอบพยายามทำสิ่งต่างๆ ด้วยกำลังของตัวเองเพียงคนเดียว

2. สิ่งที่คุณต้องการจากคนรัก


- ในวันที่อากาศสดใส คุณกับคนรักออกไปเดินเล่นด้วยกันขณะที่กำลังเดินเล่นอยู่มีคนจูงสุนัข เดินสวนมาจากอีกทางหนึ่ง คุณคิดว่าในขณะที่กำลังเดินสวนกันอยู่นั้น สุนัขจะมีปฎิกิระยาแบบไหนกับคุณ
1 เห่าใส่คุณ
2 เข้ามาคลอเคลียที่ขา
3 ทำท่ากลัว พยายามหนี
4 พยายามจะเข้ามากัดคุณ
ตอบ 1 คุณอยากจะให้คนรักของคณทำตัวให้ดูดี มีเสน่ห์มากกว่านี้ตอบ 2 เข้ามาคลอเคลียที่ขา(ขอโทษนะค่ะ ขอนี้ไม่มีคำตอบ มีข้อผิดพลาดนิดหน่อยค่ะ)ตอบ 3 คุณอยากจะให้สถานะทางสังคมและในบริษัทของคนรักของคุณสูงกว่านี้ตอบ 4 คุณต้องการความเร่าร้อนจากคนรักของคุณ

3. สิ่งที่คนรักไม่ชอบที่สุดในตัวคุณ

- เพื่อนของคุณซื้อบ้านหลังใหม่ เพื่อเป็นการฉลองบ้านใหม่ของเพื่อน คุณจะเลือกอะไรให้เป็นของขวัญกับเพื่อน
1 ภาพวาด
2 ไม้ประดับ
3 นาฬิการตั้งโต๊ะ
4 เงิน
ตอบ 1 คุณมักจะห่วงเรื่องการรักษาภาพพจน์และช่างดูแลเอาใจใส่มากเกินไปตอบ 2 คุณมักจะคิดแต่เรื่องของตัวเองมากเกินไปตอบ 3 เขาทนนิสัยที่ชอบบังคับของคุณไม่ได้ตอบ 4 เขาตามความคิดที่มักจะทำอะไรให้จบด้วยวิธีแบบง่ายๆ ไม่ไหว

5 เคล็ด(ไม่)ลับ สร้างความสนใจ

1. ทำตัวให้เป็นจุดสนใจ
ตำแหน่งที่คุณยืนและสิ่งที่คุณกำลังทำ มีผลเกี่ยวข้องกับความสามารถในการดึงดูดเพศตรงข้ามอย่างมาก ซึ่งตำแหน่งที่ดีที่สุดที่จะช่วยเสริมสร้างความมีสเน่ห์ให้ตัวของเราเอง ก็คือที่บริเวณจุดกลางของห้องที่เราอยู่นั่นเอง เพียงลองไปอยู่ที่แถวๆกลางห้องและเคลื่อนไหวร่างกายเดินไปเดินมาสักนิด ก็สามารถดึงดูดสายตาจากคนข้างเคียงได้มากกว่าครึ่งแล้วค่ะ แต่ในทางกลับกันหากสถานที่ๆคุณอยู่เป็นบาร์หรือไนท์คลับแล้ว บริเวณมุมต่างๆของสถานที่เหล่านี้จะมีผลดึงดูดใจมากกว่าค่ะ

2. ดึงดูดใจด้วยแสงสี
เป็นเรื่องจริงที่ต้องยอมรับว่าเสื้อผ้าที่เราใส่มีผลอย่างมาก และเป็นวิธีที่ดีในการดึงดูดใจเพศตรงข้าม
++ผู้หญิงจะชอบผู้ชายที่ใส่เสื้อสีเข้ม ด้วยความรู้สึกว่าสีแสดงความมั่นคง มีเสถียรภาพและพึ่งพาได้ ทำให้เกิดความรู้สึกดีที่จะสร้างสัมพันธภาพต่อกันตามไปด้วย
++สำหรับผู้ชายแล้วจะชอบผู้หญิงที่แต่งตัวออกโทนสีชมพูหรือสีพีซ ซึ่งให้ความรู้สึกดึงดูดเข้าหาและทำให้ผิวพรรณของเธอดูดีขึ้นด้วย

++สีแดงเป็นสีที่ละเอียดอ่อนและมีสเน่ห์ที่สุด แต่ก็ควรที่จะระมัดระวังในการสวมใส่ เพราะว่า สีแดงคือสีที่เป็นสัญลักษณ์ของเซ็กซ์ และพลังนั่นหมายความว่าสีนี้ สามารถดึงดูดผู้ชายได้สองประเภท คือผู้ชายที่ชอบผู้หญิงที่เข้มแข็ง หรือผู้ชายที่สนใจแต่เรื่องเซ็กซ์

3. แสดงท่าทางกุญแจสำคัญในการดึงดูดเพศตรงข้าม
ด้วยภาษาท่ทาง คือการแสดงให้เกิดความรู้สึกว่า”เข้าถึงได้” ซึ่งก็คือ การไม่เว้นช่องว่าง หรือ ไม่ไว้ตัวจนเกินไป แต่ก็ไม่ปล่อยตัวจนเกินไป และ ไม่ว่าเราจะเป็นผู้หญิงที่เข้มแข็งแค่ไหน ขอให้จำไว้ว่า ผู้ชายต้องการผู้หญิงที่มี “ที่ว่าง” ในชีวิตให้พวกเขาได้เข้ามาดูแลและเติมเต็ม แม้แต่ภาษากายง่ายๆอย่าง การพยักหน้า โบกไม้โบกมือ เพื่อแสดงว่าเราใส่ใจเขา ก็สามารถช่วยให้ความสัมพันธ์ของทั้งสองเป็นไปได้ราบรื่นมากขึ้น

สิ่งที่ควรระวังคือ อย่าไขว้แขน เขี้ยวหมากฝรั่ง หรือแทะเล็บ ซึ่งทั้งสามเป็นภาษากายที่ให้ความรู้สึกไม่น่าเข้าหาค่ะ


4. พลังแห่งรอยยิ้ม
ทั้งทางด้านจิตวิทยาและสรีระวิทยาต่างยอมรับว่า การยิ้ม เป็นสิ่งหนึ่งที่ดึงดูดใจผู้พบเห็นได้อย่างมาก ไม่จำเป็นต้องยิ้มให้กว้างแบบเกมโชว์ หรือยิ้มให้สวยงามอ่อนช้อยแบบดารา แต่เพียงแค่รอยยิ้มปกติๆธรรมดาๆ ก็สามารถดึงดูดใจเพศตรงข้ามได้มากแล้วค่ะ


5. กลิ่นหอมดึงดูดใจ
จากการศึกษาพบว่าผู้ชายมักจะหลงไหลในกลิ่นของซินนาม่อนและวานิลลา เพียงแค่ใช้น้ำหอมอ่อนๆที่มีกลิ่นเหล่านี้ก่อนจะออกเดทสักนิดนึง ก็จะช่วยเพิ่มสเน่ห์ให้กับตัวเราเองได้อย่างมากเลยล่ะค่ะ
ที่มา teen.mthai.com, natdate.com

วิธิจัดการมัดใจแฟนให้อยู่หมัด

วิธีจัดการมัดใจแฟนให้อยู่หมัด ..ลองดูนะคะ(สำหรับสาว) สำหรับคุณผู้หญิงที่มีแฟนนะคะ..ก่อนใช้คุณต้องมีคุณสมบัติตามนี่ก่อนนะคะ หากไม่มีไม่รับรองผล

คุณสมบัติ

1. คุณต้องมีแฟน..ไม่ว่าจะเป็นหญิงหรือชาย

2. หากคุณมีแฟนเป็นหญิง..คุณต้องอยู่ในฐานะของดี้เท่านั้น

3. คุณต้องจริงจัยกะคนที่คุฯคบอยู่จิงๆ..ไม่ใช่ลิงจักๆนะคะ

4. คุณต้องแน่ใจว่าคนที่คุณคบนี่เป็นคนที่คุณเลือกแล้วว่าใช่แน่นอน

5. คุณต้องแน่ใจว่าคนที่คุณกำลังคบหาอยู่นั้นไม่มีคนอื่น มีแต่คุณเพียงผู้เดียว(หมายถึงว่าเขาแต่งงานแล้ว ..หากเขาแต่งงานแล้วลองได้คะ แต่ไม่รับรองผล และไม่สนับสนุนให้ครอบครัวแตกแยกคะ)

หากคุณมีสมบัตินี้แล้วลองปฏิบัติกาม เอ้ย เตามวิธิที่สอบถามมาแล้วว่าได้ผลดูนะคะ


1. ต้องเข้าใจว่าจิงๆแล้วผู้ชาย หรือหญิงที่เป็นชายนะ เขาต้องเป็นแมน เก่งกว่าเราทุกเรื่อง แต่ในความแมนที่แสดงออกนั้นก็ยังมีความเป็นเด็กแฝงอยู่..อะ..อย่างเพิ่งงง.. เด็กชอบอะไรละคะ ขนม ของเล่นงัย แล้วก็ชอบการเอาอกเอาใจ

เพราะฉนั้นหากคุณรู้ในสิ่งที่เขาเป็น..ก็ต้องรู้จักเลือกปฏิบัติในสถานการณ์ที่เขาเป็นอย่างเหมาะสม

เช่น อยู่ต่อหน้าเพื่อนๆ ร่วมงาน เขาเป็นแมน หรือผู้จัดการ ที่มีลูกน้องต้องดูแลละก้อ คุณจะไปเข้ากี้เจ้าการ ออกคำสั่งกับเขาเด็ดขาด เพราะเป็นการไม่ให้เกียรติอย่างรุนแรง

อีกอย่างต่อหน้าเพื่อนๆ หรือญาติๆเขา ไม่ว่าคุณจะโกรธ หรืองอนแค่ไหน ก็ขอให้เก็บเอาไว้อย่าแสดงออกให้ใครรู้เด็ดขาด เพราะเป็นการฉีกหน้เขาเช่นกัน

เวลาอยู่กัน 2 ต่อ 2 ผู้ชายจะกลายร่างเป็นเด็กทันที อยากให้เราเอาใจ พะเน้าพะนอ คุณห้ามขัดใจเชียวคะ จำได้ไหมว่าเด็กๆที่ถูกขัดใจเป็นอย่างไร จะโกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยงเชียว ดีไม่ดีลงไปชักดิ้นชักงอละไปกันใหญ่

2. ผู้ชายชอบผู้หญิงฉลาดแต่ต้องไม่แสดงความฉลาดกว่าเขาทุกเรื่อง เพราะฉนั้น..การที่คุณจะแสดงความคิดเห็นอะไรก็ดูสถานการ์ให้ดี มองตาเขาก่อนเพื่อประเมินว่าเขาต้องการให้เราแสดงออดหรือไม่ และต้องแสดงออกได้ระดับใด

บางที่ความคิดและเหตุผลของเขาผิด(เขาแสดง กับผู้อื่นที่รู้น้อยกว่าเขาหรือไม่รู้เลย) เราก็ไม่สามารถแก้ไขให้เขาได้ เพราะเป็นการฉีกหน้าเขาเช่นกัน

3. คุณต้องรู้นิสัยว่าคนของคุณชอบการปรนนิบัติแบบใด..เช่น เอาอกเอาใจอยู่ตลอดเวลา ออดอ้อน หรือผู้ชายบางคนเขาชอบผู้หญิงที่เข้มแข็งเท่ย์ ช่วยหลือตัวเองได้ทุกอย่าง...คุณก็ต้องปฏิบัติในรูปแบบที่เขาต้องการ แต่ถึงอย่างไรก็ต้องมีห่วงเวลาที่เอาอกเอาใจเขาบ้าง..ตามจังหวะ..เสร็จทุก ราย
4. เซ็กซี่บ้างบางเวลา แต่อย่าให้เขารู้ว่าอ่อยนะคะ แบบอิโนเซนต์นะ (ผู้ชายชอบ) ใช้ได้กับผู้ที่มีวุฒิภาวะแล้วเท่านั้น ไม่งั้นอันตรายคะ เดี๋ยวไฟช๊อต
5.อะข้อนี้สำหรับคนที่ตกตงปลงเตียงร่วมกันแล้วคะ
คือ ว่า ...ขณะกุ๊กกิ๊กกันนะ เริ่มแรกก็แกล้งโง่ไม่รู้ว่าเขาต้องการอะไรบ้าง แต่มุขนี้ห้ามเล่นนานเดี๋ยวหมดอารมณ์ ขั้นที่สองให้มีความกล้ามากขึ้นอีกนิด ห้ามอายเป็นอันขาด แต่จะกล้าถึงระดับไหนก็เป็นสิทธิ์ส่วนบุคคลอยู่ในดุลพินิจ

ถ้าจะให้ดีการพูดคุยถามไถถึงความต้องการของแต่ละฝ่ายดีที่สุดคะ ไม่ต้องอายคะ เพราะอายแล้วไม่รู้คุณนั่นแหละที่จะหลงทาง
6. ห้ามเซ้าซี้ ซักถามมากหากคุณเป็นแค่แฟน เพราะเขากำลังเรียนรู้พฤติกรรมคุณ และการกระทำนั้นจะทำให้เขาถอยห่างคุณออกไปเรื่อยๆ


7. หากคุณเปลี่ยนสถานะจากแฟนมาเป็นแม่บ้านเต็มตัว ก็มีสิทธิ์ถามตามข้อ 6 ได้คะ แต่จำไว้ว่าอย่าพร่ำเพรื่อ หรือบ่นเด็ดขาด คุณต้องแสดงบทบาทเห็นอกเก็นใจที่เขาทำงานหนักอยู่นอกบ้าน การถามว่าอยู่ที่ไหน เมื่อไหรกลับ ต้องใช้วิธิที่นิ่มนวลแบบห่วงใยนะคะ

8. หากคุณสงสัยว่าเขาตุกติก นอกใจ ก็อย่างแสดงอาการสงสัยมาเชียวคะ คุณต้องพิสูจณ์ก่อนว่าสิ่งที่คุณสงสัยเป็นจริงหรือไม่


9. หากพิสูจณ์แล้วเป็นจริง คุณต้องดูว่าคนของเราตั้งใจให้เป็นหรือไม่ หรือหญิงอื่นมาชอบ อ่อยสามีเราฝ่ายเดียว

10. หากสามีเราดูแล้วไม่มีท่าทีให้ใจหญิงอื่นคุณก็เริ่มปฏิบัติการอย่างนิ่มนวลนะคะ ที่สำคัญอย่าให้คนของเรารู้เด็ดขาด ลองใช้วิธีที่มีคนแนะนำนี้ดูคะ พี่เขาบอกว่า ให้ใช้แผนบังเอิญคะ แบบว่าเราไปเป็นครอบครัว แล้วไปเจอฝ่ายตรงข้ามก็แสดงตัวว่าเราเป็นแม่บ้าน แม่ของลูกอะไรทำนองนี้คะ หรือรู้ว่าเขาจะเจอกันที่ไหน เราก็แกล้งมีธุระ หรือแวะไปหาสา เป็นการแสดงตนอย่างแนบเนียนอีกวิธีคะ


11 หากสามีเรามีใจด้วยก็ใช้วิธีโบราณคะ คิดว่าโปรยเสน่แบบไหนได้ก็ใช้ แต่อย่ามากจนเอียนเพราะอย่าลืมว่าไม่ใช่ข้าวใหม่ปลามัน เดี๋ยวกลายเป็นทุเรศในสายตาเขา แกล้งโง่ว่าไม่รู้ หาเหตุให้เขามีกิจกรรมภายในครอบครัวอย่างแนบเนียนไม่มีเวลาออกนอกบ้าน


12.เมื่อเขาไม่ออกนอกบ้านแล้วคุณต้องให้ความสำคัญ และให้อภัยในสิ่งที่เขาทำนะคะ ห้ามรื้อฟื้นเด็ดขาด

สุดท้าย..อยากแนะนำว่า การอยู่ด้วยกันใช้ชีวิตร่วมกันให้ยังยืนต้องอยู่กันด้วยความเข้าใจในสิ่งที่เป็นตัวตนของกันและกัน เรายอมรับตัวตนของเขาได้ และเขายอมรับในตัวตนของเราได้ โดยไม่ต้องปรับหรือแก้ไขกันมาก จนกระทั่งไม่เป็นตัวของตัวเอง หากการอยู่ด้วยกันป็นการอยู่แบบบังคับตัวเองและเขา ก็อย่าฝืนเลยคะ คุยกันดีกว่า วิธีไหนๆก็ใช้ไม่ได้หากหมดใจให้กันแล้ว อยู่ต่อก็ทรมานทั้งสองฝ่ายคะ

เคล็ดลับเรื่องอินเลิฟ จากตัวแม่

สาวๆ จ๋า สิ่งเหล่านี้ ที่ไม่ควรทำ เมื่อกำลังอยู่ในขั้นแรกของการ อินเลิฟ 

- พูดมาก พูดมากทุกอย่าง พูดไม่คิด อันตรายมากๆ ถ้าคุณทำ เพราะนอกจากจะไม่ทำให้อะไรดีแล้ว ยังจะดูโง่ไร้สติอีกต่างหาก
- ตื้อ หรือ ส่งสัญญาณว่าจะจับเขา ผู้ชายหนีแน่นอน
- ทำตัวน่ารำคาญ พูดไม่รู้เรื่อง หรืออ้อน ทั้งๆ ที่ยังไม่ได้เป็นอะไรกัน
- วีน เหวี่ยง ด่าว่าคนที่มีสถานะด้อยกว่า เช่น เหวี่ยงเด็กเสิร์ฟ
- ทำหน้านอยด์ เวลาอะไรไม่ได้อย่างใจ ทำตัวมากเรื่อง
- ไม่มีมารยาท
- เข้ากับเพื่อนเขาไม่ได้ ทำตัวเริ่ด เชิ่ด แสดงตัวว่าสูงกว่าเพื่อนๆ เขา
- ฟูมฟายร้องให้จะเป็นจะตาย ทั้งๆ ที่ไม่ได้เป็นอะไรกัน
- รอโทรศัพท์ sms บีบี จากเขาอย่างบ้าคลั่ง ไม่เป็นอันทำอะไร ทำเหมือนว่า ถ้าขาดเขาไป โลกนี้จะแตกสลาย
- เอาตัวเข้าแลก .. ก็ .. นะ คุณค่ามันอยู่ที่การวางตัวจริงๆ


ไม่รู้หรอกว่า ตัวแม่ ที่ว่านี้คือใคร แต่คำแนะนำที่ว่ามาก็ดูจะเข้าทีเหมือนกันนะ
เรื่องที่ยากก็คือ .. จะทำยังไงให้ทำได้อย่างที่ตัวแม่เค้าบอกมาล่ะ ??
ก็ ความรัก มันทำให้ตาบอด นี่คะ ตัวแม่ขา

นิยามความรักของคุณเปรียบเสมือนกับ...?

คนดีๆ... ล้วนมีเจ้าของไปหมดแล้ว(เหมือนที่จอดรถ)

ส่วนคนที่ยังเหลืออยู่... มันก็ต้องมีเหตุผลล่ะนะ (ไม่เหมือนที่จอดรถ)


ความรัก ...ก็เหมือนการรอรถเมล์

สายที่ไม่อยากขึ้น-ก็มาจัง ..

ส่วนสายที่ต้องการจะขึ้น ...ก็.....นะ รอไปเถอะ

พอมา-ก็ไม่จอด

พอจอด-ก็คนแน่น-ขึ้นไม่ได้..พอขึ้นได้-รถก็ไปตายกลางทางอีก


ความรัก..ก็เหมือนกับเหรียญ

แหวน ..หรือชิ้นส่วนเล็กๆ

เพราะเมื่อไหร่ที่มันหลุดมือตกลงพื้น

มันจะต้องกลิ้งไปยังซอกที่มืดที่สุด.. และลึกที่สุด

จนเรามองไม่เห็น ...และเอื้อมไม่ถึง


รถไฟ..อาจจะวิ่งบนราง ...

แต่อย่าด่วนสรุปว่า ...มันวิ่งไปทางไหน ...โดยดูจากราง

เพราะเมื่อเหลียวกลับมามองอีกที

รถไฟขบวนนั้น..อาจจะวิ่งผ่านคุณไปแล้วก็ได้


คนสวย ..หรือคนหล่อ

ก็ไม่ได้อยู่ที่คำจำกัดความ..

แต่อยู่ที่จินตนาการของแต่ละคนมากกว่า…

ว่าจะมองใครว่าเป็นคนสวยหรือคนหล่อในสายตา

คุณว่าจริงไหม?

นิยามความรักของเพื่อนๆล่ะ เป็นแบบไหนกัน ??

50 นิยามของความรักในแต่ละอารมณ์ของคน

.ความรักคือ โชคอย่างหนึ่งเพราะใช่ว่าทุกคนจะมีได้
2.ความรักเป็นได้ทั้งมือเเละผ้าพันเเผลเวลาเสียใจ


3.ความรักคือ สิ่งเติมเต็มให้ชิวิตไม่รู้สึกขาดอะไรไปอย่างนึง
4.ความรักคือ ความหวัง กำลังใจ เเละศรัทธาในกันเเละกัน

5.ความรัก มีความลับอยู่อย่างหนึ่งว่าไม่ได้รักในสิ่งที่ทำให้เรามีความสุข
เเต่มีความสุขในสิ่งที่เรารักต่างหาก

6.ความรักคือ ศิลปะ ที่คนมีรักเท่านั้นที่จะเข้าใจเเละเห็นคุณค่า
7.ความรักคือ โอกาส ที่เราจะได้พิสูจน์จิตวิญญาณของตัวเอง

8.ความรักคือ สิ่งที่ทำให้คนฉลาดกลายเป็นคนโง่ ทำให้คนโง่กลายเป็นคนฉลาด
9.ความรัก เมื่อสูญเสียไปเเล้วก็ยังดีกว่าไม่เคยรัก

10.ความรัก มิได้เป็นการก้าวนำหรือก้าวตามเเต่เป็นการก้าวไปพร้อมๆกัน
11.ความรักทำให้คนเราเป็นอิสระจากกฎเกณฑ์เดิมๆของชีวิต

12.ความรักทำให้จดจำคืนพิเศษคืนเดียวไปตลอดชีวิต
เพราะทุกคืนที่ไร้ความรักก็มิอาจเทียบเท่าได้กับคืนนี้เพียงคืนเดียว

13.ความรักคือการยอมเป็นน้ำเย็นในขณะที่อีกฝ่ายร้อนเป็นไฟ
14.ความรักที่มีมาเป็นปีๆก็สามารถพังทลายลงได้เพียงเสี้ยววินาที

15.ความรักจะยาวนานหรือจะเเสนสั้นทุกอย่างขึ้นอยู่กับวิธีที่รัก
16.ความรักกว่าจะพบเจอได้นั้นเเสนยากอย่าให้มันจบสิ้นเพียววันเดียว

17.ความรักสามารถเกิดขึ้นใหม่ได้ตลอดเวลาเหมือนถ่านไฟเก่าที่กำลังคุโชน
18.ความรักต่อให้บอกกันทุกวันว่ารักก็ไม่มีคำว่ามากเกินไปหรอก
เเต่ความเกลียดสิบอกกันครั้งเดียวก็คงไม่อยากได้ยินอีกต่อไป

19.ความรักถ้าไม่รักเเล้วต่อให้พูดมากเท่าใดก็ไม่สามารถรักกันได้
20.ความรักสามารถให้อภัยกันได้เสมอโดยไม่มีเงื่อยไขว่ากี่ครั้ง

21.ความรักรักได้เเต่อย่าหลงเพราะถ้าหลงเวลาเลิกเเล้วจะเจ็บปวด
22.ความรักอยู่เหนือคำทำนายเเละจะไม่มีวันเป็นไปตามคำพยากรณ์ได้

23.ความรักคือสิ่งแปลกใหม่ที่จะทำให้มุมมองของคุณเปลี่ยนไปจากเดิม
24.ความรักทำให้คุณอยู่นิ่งๆเงียบๆได้นานกว่าเดิม

25.ความรักคือสิ่งที่ทำให้เกิดประกายไฟในหัวใจ
26.ความรักคือการเริ่มคิดเป้าหมายเเห่งชีวิต

27.ความรักคือการร่วมฝัน ร่วมปันใจเเละก้าวไปในชีวิต
28.ความรักคือการอยู่เคียงข้างกันเสมอไม่ว่าอีกฝ่ายจะตกต่ำเพียงใด

29.ความรักไม่ว่าจะเป็นเเบบไหนยังไงมันก็ต้องมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว
30.ความรักเป็นนามธรรมที่มองไม่เห็นเเต่สัมผัสไได้ด้วยหัวใจ

31.ความรักทำให้วันเลวร้ายไม่เป็นวันเลวร้ายที่สุด
32.ความรักทำให้วันที่เเสนเศร้ากลายเป็นวันที่สุขที่สุดได้

33.ความรักเป็นสมบัติล้ำค่าที่ไม่สามารถจะหาได้ง่ายตามท้องถนน
34.ความรักทำให้อะไรดีงามได้เสมอ

35.ความรักที่รีบร้อนมักจะพบกับจุดสิ้นสุดได้รวดเร็วเสมอ
36.ความรักคือสิ่งที่เเม้จะทำความเจ็บปวดให้เเต่ก็ไม่มีใครที่กลัวหรือเกลียดชังความรัก

37.ความรักไม่ได้จบลงเเค่การเเต่งงานหรือมีSEXเท่านั้น
38.ความรักคือสิ่งที่คุณจะพบได้เองโดยมิต้องเเสวงหา

39.ความรักคือสิ่งที่ยืนยาวกว่าชีวิตคนคนนึง
40.ความรักส่วนมากมักจะเติบโตมาจากความเป็นเพื่อนเเละมักจะยืนยาวเสมอ

41.ความรักในยามเเรกรักคือช่วงเวลาของรักที่หวานหอมมากที่สุด
42.ความรักครั้งเเรกเเละครั้งสุดท้ายมักจะเป็นรักในตนเอง

43.ความรักทำให้คนกลายเป็นกวี
44.ความรักไม่ใช่การมองตากันเเต่เป็นการมองไปในทิศทางเดียวกัน

45.ความรักไม่ว่าจะเกิดขึ้นเมื่อใดก็ไม่มีคำว่าสายไป
46.ความรักคือสิ่งมหัศจรรย์ที่เกิดขึ้นในชีวิตคุณ

47.ความรักทำให้ทุกอย่างสว่างเเละสดใส
48.ความรักคือการพึงพอใจในสิ่งที่รัก

49.ความรักจะมีคุณค่าได้ต่อเมื่อคนที่รักต้องให้เกียรติ์ซึ้งกันเเละกัน
50.ความรักบางทีก็เป็นสะพานทอดไปสู่การแต่งงาน

7 วิธีเปลี่ยนวันจันทร์แสนเซ็งให้สดใส

1. แต่งตัวสวย ๆ หล่อ ๆ

         อย่าให้อารมณ์ขุ่นมัวทำให้เราหม่นหมองตามไปด้วย แต่งตัวสวย ๆ หล่อ ๆ ข่มอารมณ์นั้นไปเลยค่ะ หยิบชุดที่คุณใส่แล้วมั่นใจว่าเริ่ดสุด ๆ รองเท้าคู่เก๋ที่อาจเก็บไว้ใส่ในโอกาสพิเศษ หยิบมาใส่เพิ่มความกระชุ่มกระชวยให้วันต้นสัปดาห์สักวัน เท่านี้วันจันทร์ของคุณก็สดใสขึ้นกว่าเดิมแล้ว

2. ทำอะไรตามใจตัวเอง

         แทนที่จะปล่อยให้ความเศร้าซึมของวันจันทร์เข้าครอบงำ เรามาเติมความสดชื่นเบิกบานด้วยการทำอะไรตามใจตัวลองดูดีกว่าค่ะ ลองกำหนดให้วันจันทร์เป็นวันที่คุณทำอะไรตามใจตัวเองได้อิสระหนึ่งวัน เช่น ไปทานขนมร้านที่ชอบ, แพ็คข้าวเที่ยงมื้อโปรดไปกินที่ทำงาน หรือนอนแช่น้ำอุ่นในอ่างหลังเลิกงาน หรือกำหนดให้เป็นวันช็อปปิ้งประจำสัปดาห์ก็ได้ แทนที่จะเก็บเอาไว้ทำเฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์ ก็ย้ายมาทำในวันจันทร์เสีย... เปลี่ยนวันที่น่าเบื่อให้เป็นวันที่น่ารอคอยกันดีกว่า

3. ปล่อยอารมณ์ปล่อยใจไปกับเสียงเพลง

         ท่วงทำนองของบทเพลงมีผลต่ออารมณ์ความรู้สึกเราได้จริง ๆ ค่ะ ลองเปิดเพลงจากซีดีแผ่นโปรด หรือจะเปิดวิทยุคลื่นที่คุณชอบฟังก็ได้ นอกจากเพลงเพราะ ๆ แล้ว ดีเจประจำคลื่นก็ยังมีเรื่องราวต่าง ๆ มากมายมาบอกเล่าให้ฟังเพลิน ๆ อีกด้วย..ก็แก้เซ็งได้ดีเหมือนกันนะ

4. วันจันทร์ก็ดูหนังได้

         ทำไมต้องเก็บเรื่องดูหนังเอาไว้ทำเฉพาะช่วงสุดสัปดาห์ ? ลองย้ายมาทำวันจันทร์ดูสิคะ ถือเป็นรางวัลหลังเลิกงาน หลังจากวันแรกของสัปดาห์สิ้นสุดลง ชวนเพื่อนที่เป็นคอหนังหรือคนรักไปดูด้วยกัน หรือใครอยากฉายเดี่ยวก็ไม่เป็นไร ดูหนังวันจันทร์คนไม่เยอะ ไม่ต้องไปแย่งที่กับใครด้วยค่ะ

5. เริ่มเคลียร์งานบางส่วนตั้งแต่คืนวันอาทิตย์

         หลาย ๆ คนคงเบื่อวันจันทร์ที่งานต่าง ๆ พากันประเดประดังเข้ามามากมาย ทำให้รู้สึกว่าวันจันทร์นั้นช่างยุ่งยากเหลือเกิน เพราะฉะนั้นหากใครมีวันอาทิตย์ที่แสนสบาย ไม่มีธุระปะบังอันใดต้องทำ หรือไม่มีแพลนต้องออกไปไหน ลองเอนหลังสบาย ๆ เคลียร์งานง่าย ๆ บางส่วนที่รอคุณอยู่ในเช้าวันถัดไปดูก่อนก็ได้ค่ะ อาจเป็นการตอบอีเมล์ หรือเตรียมเอกสารการประชุมที่ไม่ยุ่งยากเกินไปนัก การเคลียร์งานไปได้บางส่วน จะทำให้คุณเริ่มต้นทำงานในเช้าวันใหม่ได้อย่างเบิกบานใจกว่าเดิมหลายเท่าเลยล่ะ

6. ซื้อของที่ตัวเองอยากได้ในวันจันทร์

         อีกวิธีหนึ่งที่จะแปลงร่างวันจันทร์ให้เป็นวันที่น่ารอคอยเช่นเดียวกับวันหยุดสุดสัปดาห์ ลองอนุญาตให้ตัวเองซื้อของที่คุณอยากได้ หรือของที่จะทำให้คุณรู้สึกดีในวันนี้ ความรู้สึกเหล่านี้จะทำให้คุณยิ้มรับวันเริ่มต้นการทำงานได้อย่างสดชื่น ซึ่งสิ่งที่ซื้อไม่จำเป็นต้องมีราคาแพง อาจเป็นเพียงกาแฟหอมกรุ่นจากร้านโปรด ปากกาหรือสมุดโน้ตดีไซน์สวย ๆ ที่อยากได้มานาน เท่านี้ก็เพียงพอที่จะช่วยให้คุณมีแรงฮึดก้าวผ่านวันนี้ไปอย่างไม่น่าเบื่อ

7. นัดเพื่อนมาทานมื้อกลางวันด้วยกัน

         นอกจากคุณ ก็คงมีเพื่อนของคุณอีกเกินครึ่งแน่นอนที่มีความรู้สึกเบื่อหน่ายวันจันทร์ ลองยกหูโทรศัพท์ชวนเพื่อนสักคนหรือหลาย ๆ คน ที่คุณคิดว่าคงประสบชะตากรรมและรู้สึกแบบเดียวกับคุณ ชวนพวกเขาออกมาทานมื้อกลางวันในวันจันทร์ที่กำลังจะมาถึงด้วยกัน เท่านี้การนัดหมายเล็ก ๆ นี้ก็จะทำให้คุณตั้งตาคอยที่จะให้ถึงวันนัดแทบไม่ไหว เพราะจะได้เจอเพื่อนและพูดคุยทักทายกัน...ไม่อะไรน่ารอคอยเท่านี้อีกแล้ว

การเลือกซื้อ-น้ำยาล้างเล็บ

ใครที่ชอบทาสีเล็บบ่อย ๆ แล้วมีปัญหาเรื่องน้ำยาล้างเล็บ ล้างแล้วทำให้เล็บแห้ง วันนี้เกร็ดความรู้มีวิธีการเลือกน้ำยาล้างเล็บมาฝาก....

เวลาเลือกซื้อน้ำยาล้างเล็บ วิธีง่าย ๆ คือ ตรวจดูว่ามีส่วนผสมของสารที่ให้ความชุ่มชื้นกับผิวเล็บหรือไม่

วิธีทดสอบ คือ ให้ลองหยดน้ำยาล้างเล็บลงบนปลายนิ้วมือ ถูนิ้วไปมาจนแห้ง ทิ้งไว้สักพัก ถ้าหากนิ้วมือเปลี่ยนเป็นสีขาว แสดงว่าน้ำยานั้น อาจมีสารให้ความชุ่มชื้นน้อยเกินไป หรืออาจไม่มีเลย ถ้าเป็นอย่างนั้นก็บอกลาแล้วเปลี่ยนไปใช้ยี่ห้ออื่นแทนได้เลย

ถ้าคิดจะซื้อยาล้างเล็บครั้งต่อไป อย่าลืมนำวิธีที่แนะนำไปทดสอบก่อนซื้อ แล้วจะได้น้ำยาล้างเล็บที่ทำให้เล็บไม่แห้ง.
ลิงค์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
- สีเล็บบ่งบอกบุคลิก
- สีเล็บอัพลุค 
- การเลือกซื้อ-น้ำยาล้างเล็บ
- แลเล็บเท้า
- เลือกสียาทาเล็บ ให้เหมาะกับสีผิว
- < * - * > ป้องกันเล็บขบ ก่อนติดเชื้อลุกลาม < * - * >
- กวาดล้างความเชื่อผิดๆ "คนตายแล้ว เล็บยังงอกยาวอีกได้?"
- เล็บฉีกเป็นประจำจะทำอย่างไร
- เทคนิคการทาเล็บให้สวยเนียน - เลือกสียาทาเล็บให้เข้ากับผิว
- วิธีแก้เล็บสีเหลือง
- เล็บสวยด้วยนมอุ่น
- เตือน!!! ห้ามใช้ "กาวเคมี" ถูกๆต่อเล็บ อาจทำให้ "เล็บ" เสียหายถาวร 
- เล็บสวยด้วยนมอุ่น
- ตะลึง! เลี้ยงเล็บมือ ไว้นาน 15 ปี

8 เคล็ดลับมือสวย

ผิวมือก็บ่งบอกความสวยหรือความร่วงโรยได้ไม่แพ้ใบหน้าฉะนั้น อย่าเน้นดูแลเฉพาะใบหน้าอย่างเดียว และนี่คือเคล็ดลับง่ายๆ ที่จะช่วยให้คุณมีมือที่เนียนนุ่มน่าสัมผัส

1. อย่าล้างมือบ่อย แน่นอนว่าคุณควรล้างมือบ่อยๆ เพื่อป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ 2009 แต่อย่าให้บ่อยเกินความจำเป็น เพราะน้ำจะทำให้มือของคุณแห้งได้
2. ลดการใช้สบู่ มันจะทำให้ผิวแห้ง เกิดอาการระคายเคือง และร่วงโรยก่อนวัยได้ เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ล้างมือแบบที่ช่วยคืนความชุ่มชื้นไปในตัวจะเหมาะกว่า
3. ทาโลชั่น ทุกครั้งหลังล้างมือ โดยทาในขณะที่ผิวยังชื้นๆ อยู่ เพื่อกักเก็บความชุ่มชื้นเอาไว้
4. ป้องกันแสงแดด คุณควรทาครีมกันแดดเป็นประจำเวลาที่ต้องออกไปนอกบ้าน และถ้าจะให้ดีไปกว่านั้นก็ควรสวมถุงมือผ้าฝ้ายกันเอาไว้อีกชั้น เวลาที่คุณต้องขับรถไปไหนต่อไหน
5. ดูแลเล็บ คุณควรทาน้ำมันบนหนังหุ้มเล็บทุกคืน แล้วดันให้กลับเข้าที่หลังอาบน้ำเสร็จใหม่ๆ วิธีนี้จะช่วยให้คุณไม่ต้องตัดหลังหุ้มเล็บ เพราะนั่นเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำอย่างยิ่ง
6. ทามอยสเจอไรเซอร์แบบเข้มข้นในตอนกลางคืน เพื่อช่วยคืนความชุ่มชืิ้นเป็นพิเศษ
7. ขัดผิวมือ ใช้สครับขัดผิวมือเป็นประจำทุกสัปดาห์ เพืื่อขจัดเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้วออกไป
8. ล้างเล็บ ล้างยาทาเล็บออกหลังจากทาไปแล้ว 7 วัน แล้วปล่อยให้เล็บเปลือยเปล่าเพื่อเป็นการพักฟื้นซักสองสามวันก่อนทาเล็บใหม่

by Lisa

เคล็ดลับ การซักผ้าให้ขาว ด้วยน้ำสไปรท์

ต่อไปนี้ปัญหาผ้าสีขาวหมองไม่สดใสจะหมดไป ด้วยเคล็ดลับดี ๆ จากการใช้ของใกล้ตัวที่คุณอาจคาดไม่ถึง นั่นคือ น้ำสไปรท์

ปัญหาอย่างหนึ่งของเหล่าพ่อบ้านแม่บ้านที่ต้องซักผ้าเอง นั่นก็คือ ผ้าขาว ไม่ว่าจะเป็นเสื้อนักเรียน นักศึกษา เสื้อยืด เสื้อเชิ้ต ฯลฯ ซักแค่ไม่กี่ครั้งสีผ้าก็หมองแลดูเก่าแล้ว ต่อไปนี้หมดกังวลเรื่องผ้าไม่ขาวสว่างสดใสไปได้เลย ด้วยเทคนิคการซักผ้าให้ขาวด้วยสไปรท์
น้ำสไปรท์ เครื่องดื่มน้ำอัดลมสีขาวใส ของโปรดของใครหลาย ๆ คน ไม่ได้มีประโยชน์เพียงแค่ดื่มดับกระหายและให้ความสดชื่นเท่านั้น แต่ยังมีคุณสมบัติอีกหนึ่งอย่างที่อาจคาดไม่ถึงกัน นั่นคือสามารถช่วยในการซักผ้าให้ขาวได้
วิธีทำก็คือ นำผ้าขาวที่ต้องการซักแช่ลงในน้ำสไปรท์และผสมผงซักฟอกลงไปเล็กน้อยตามความเหมาะสมของปริมาณผ้า โดยใช้อัตราส่วนสไปรท์ 1 ขวด (325 ซีซี) ต่อเสื้อประมาณ 1-2 ตัว นำไปแช่ไว้ค้างคืน หาอะไรปิดป้องกันมดด้วยก็ดี เสร็จแล้ววันรุ่งขึ้นนำมาซักตามปกติ ผ้าจะขาวเหมือนใหม่จนคุณไม่อยากเชื่อเลยทีเดียว
แถมให้อีกหนึ่งวิธีประหยัด ๆ ไม่จำเป็นต้องใช้น้ำยาฟอกขาวอะไร เพียงแค่ที่บ้านใช้สบู่ก้อน แล้วมีเศษสบู่เหลือ เพียงแค่นำสบู่มาฟอกผ้า ควบคู่ไปกับการซักผ้าตามปกติ เพียงเท่านี้เสื้อผ้าสีขาวของท่านก็จะดูเหมือนใหม่ไปอีกนาน.
ที่มา นสพ.เดลินิวส์

ยังรัก และ คิดถึง ..

ในวันที่ความรัก ไม่เหลือแม้เยื่อใย
คนหนึ่งอาจลืมเลือน
แต่อีกคน ... ยังไม่ลืม

วันนี้ยังรัก ... ก็ยังรัก
วันนี้ยังคิดถึง ... ก็คิดถึง
วันนี้เจ็บ เพราะรู้ข่าวคราว ... เจ็บก็เจ็บไป
แต่ยัง ก็ควรยินดี กับเค้าด้วย

เพราะคนเรา ห้ามอะไรก็ห้ามได้
แต่ห้ามใจตัวเอง ไม่ให้รัก ไม่ให้คิดถึงใครคนหนึ่ง มันห้ามกันยาก
เพราะฉะนั้น
อยู่กับสิ่งที่เราทำแล้วมีความสุข
หากมันจะปนเปื้อนไปด้วยความทุกข์บ้าง จะเป็นไรไป

จาก หนังสือ ยังรัก และ คิดถึง